แนวทางการเลือกหน้ากาก
1.เลือกชนิดโดยพิจารณาตามจุดประสงค์
1) การป้องกันการกระจายเชื้อ
– กรณีผู้สวมใส่มีอาการผิดปกติทางระบบหายใจเช่น ไอ จาม น้้ามูกควรเลือกใช้อย่างน้อยเป็นกลุ่ม medical-type
face mask ที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันฝอยละอองผ่านการไอจามได้ดีกว่า
– กรณีผู้สวมใส่อาการปกติสามารถใช้เป็น public-type face mask หรือ fabric-type face mask ก็ได้
– การใช้ face shield สวมทับหน้ากากเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการกระจายฝอยละอองขนาดใหญ่ได้
2) การป้องกันการทางเดินหายใจ การเลือกหน้ากากขึ้นอยู่กับขนาดของอนุภาคที่ต้องการป้องกัน และประสิทธิภาพของหน้ากากที่ใช้
– การเลือกใช้เพื่อป้องกันฝุ่น การเลือกใช้เพื่อป้องกันฝุ่นดา(PM10) สามารถเลือกใช้เป็น face mask (public type/medical mask) รวมถึงหน้ากากผ้าทั่วไปได้สามารถกรองได้ร้อยละ 90-99 แต่ในกรณีที่ใช้เพื่อป้องกันฝุ่นจิ๋ว (PM2.5) หน้ากากแต่ละชนิดมีประสิทธิภาพในการป้องกันแตกต่างกัน โดยหน้ากาก N95 ทั้งสองชนิดและหน้ากากกันฝุ่น (PM2.5 dust mask/ nano mask) มีประสิทธิภาพการกรองได้ร้อยละ 95, medical mask หรือ public type มีประสิทธิภาพการกรองได้ร้อยละ 60 –80 ในขณะที่หน้ากากผ้าทั่วไปสามารถกรองได้ร้อยละ 30 – 60 แต่หากเป็นเส้นใยนาโน (nanofabric mask) มีประสิทธิภาพการกรองสูงถึงร้อยละ 60- 95
– ป้องกันการติดเชื้อทางเดินหายใจ การเลือกชนิดของหน้ากากโดยพิจารณาจากวิธีของที่แพร่กระจาย และความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนใหญ่มีแพร่กระจายทางฝอยละอองขนาดใหญ่ สามารถป้องกันโดยหน้ากากทั่วไปหรือหน้ากากผ้า กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ เช่น มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่ วย ควรพิจารณาใช้เป็น medical mask หรือ หน้ากากผ้าที่มีประสิทธิภาพสูง เช่นหน้ากากผ้าสามชั้นหน้ากากผ้านาโน เป็นต้น การติดเชื้อที่แพร่ทางลมหายใจหรือเชื้อที่มีขนาดเล็กกว่า 0.5 ไมครอน เช่น เชื้อวัณโรคเชื้อโควิด-19 เป็นต้น ในกรณีที่มีความเสี่ยงสูง เช่น สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่ วยที่ไม่มีการป้องกัน พิจารณาใข้หน้ากาก N95 หรือเทียบเท่า ซี่งจะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันสูงสุดอยู่ที่ร้อยละ 80 –90 ที่ระยะห่างครึ่งเมตร โดยหน้ากากทางการแพทย์และหน้ากากผ้ามีประสิทธิภาพในการป้องกันรองลงมาอยู่ที่ ร้อยละ 50 และ 30 ตามลาดับ การเพิ่มระยะห่างระหว่างผู้ป่วยและการให้ผู้ป่วยสวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากทางการแพทย์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันให้สูงขึ้นถึง 2 เท่า
2.เลือกขนาดและรูปทรงที่เหมาะสมพอดี
ครอบตั้งแต่บริเวณสันจมูกลงไปถึงบริเวณคาง ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป ไม่เคลื่อนขยับขณะมีการเคลื่อนไหวใบหน้าเวลาพูดหรือก้มเงย
3. เลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน
เครดิต : ผศ.พ.ต.ต.พญ. นพรัตน์ ธรรมศิริ
กุมารแพทย์ระบบหายใจ รพ. ตำรวจ